
“ชานมไข่มุก อร่อยอันตราย” หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งมีจัดจำหน่ายอยู่ทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นในห้าง ไปจนกระทั่งร้านขายของริมทาง
และก็โปรโมชันลดแลกเปลี่ยนแจกแถมเรื่อย ซึ่งจากสถิติพบว่า ข่าวสุขภาพ เมืองไทยบริโภคเครื่องดื่มจำพวกนี้สูงถึง 6 แก้วต่ออาทิตย์ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย ที่มีพลเมืองมากยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก เว้นเสียแต่รสที่โดนเด่น มีความหอม ความหวาน และก็ความมัน ความนิ่มหนึบของมุกหรือสามารถเพิ่มท็อปปิ้งต่างๆที่มีเยอะแยะให้เลือกเฟ้น ทำให้ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า เพราะเหตุใดเครื่องดื่มจำพวกนี้ก็เลยเป็นที่พึงพอใจของคนอีกจำนวนไม่น้อย แม้กระนั้นหารู้ไม่ว่าภายใต้ความอร่อยที่เราหลงใหลอยู่นั้นกลับซ่อนเร้นไปด้วยโทษมหันต์ตามมาได้ เป็นต้นว่า
• ทำให้น้ำหนักตัวมากขึ้น
ระเบียงมมุก แม้ใคร่ครวญตามส่วนประกอบจะมีความเห็นว่าน้ำตาลรวมทั้งแป้งจากมุก รวมทั้งไขมันจากนมหรือครีมเทียม ล้วนแล้วแต่เป็นสารให้พลังงานทั้งนั้น ซึ่งอาจจะทำให้กำเนิดพลังงานส่วนเกินกว่าที่ร่างกายปรารถนาต่อวัน โดยระเบียงมมุก 1 แก้วนั้นอาจมีพลังงานสูงได้ตั้งแต่ 157 – 769 กิโลแคลอรี เสมอกันของกิน 1 มื้อ เมื่อพวกเรากินจากของกินธรรมดาในแต่ว่าวันด้วยแล้ว ก็จะสะสมจนกระทั่งทำให้น้ำหนักตัวมากยิ่งขึ้นได้ นอกเหนือจากนั้นในเฉลียงมมุก 1 แก้ว มีสารอาหารอื่นอย่างวิตามินและก็แร่น้อยมากซึ่งอาจจะทำให้ได้รับสารอาหารต่อวันไม่พอ
• ประทุษร้ายอย่างรอบด้าน
ถึงแม้ว่าน้ำตาลจะเป็นสารอาหารให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่ว่าการได้รับน้ำตาลในจำนวนมากย่อมเกิดโทษต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน นานัปการแบรนด์ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย 1 แก้วนั้นมีจำนวนน้ำตาลตั้งแต่ 16 กรัม (4 ช้อนชา) ถึง 74 กรัม
(18.5 ช้อนชา) ซึ่งเกินกว่าจำนวนที่ชี้แนะต่อวันหรือ 6 ช้อนชาหลายเท่าตัว ซึ่งการได้รับน้ำตาลในจำนวนที่มากเหลือเกิน น้ำตาลจะสะสมเป็นรูปไขมันที่ตับและก็อวัยวะอื่นๆได้ และก็การกินน้ำตาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตาลฟรุกโตสที่สูงเป็นสาเหตุของการเกิดภาวการณ์ซุกซนต่อเลปติเตียนน (Leptin Resistance) ทำให้หิวตลอดระยะเวลา แล้วก็ต้องการกินเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังทำให้การควบคุมอารมณ์ลดน้อยลง อารมณ์ผันแปร แล้วก็กำเนิดลักษณะของสภาวะเซื่องซึมได้
• นำมาซึ่งโรคเรื้อรังต่างๆ
จากข้อที่กล่าวมา การเสียสมดุลของพลังงานเป็นระยะเวลาที่ยาวนานรวมทั้งการบริโภคน้ำตาลที่มากเหลือเกิน รั้งนำให้กำเนิดวิธีการอักเสบรวมทั้งสะสมมวลไขมันภายในร่างกาย จนถึงกำเนิดโรคเรื้อรังตามมาท้ายที่สุด โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases, NCDs) อย่างเช่น โรคอ้วน เบาหวานจำพวกที่ 2 โรคความดันเลือดสูง โรคเส้นเลือดสมอง โรคมะเร็ง ฯลฯ ซึ่งเป็นกรุ๊ปโรคสำคัญที่มีปริมาณคนเจ็บเยอะขึ้นในทุกๆปี
แนะนำข่าวสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : หวัดแดดโรคเด็กฤดูร้อน แนะผู้ดูแลดูแลรักษาสุขภาพร่างกายลูกหลานอย่างใกล้ชิด