
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Comic Days นาโอกิ โยชิดะ (Naoki Yoshida)
เกมส์ อธิบายเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนระบบต่อสู้ใน Final Fantasy XVI ให้กลายเป็นแอ็กชันแทนที่จะเป็นการใช้คำสั่งเหมือนเดิม “พวกเราต้องการโลก โดยเฉพาะเด็กยุคใหม่ที่ชื่นชอบการเล่นเกม” โยชิดะ เผย ตัวเกมเน้นเจาะฐานกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่ยังไม่เคยเล่นเกมนี้ “ระบบของเกมถูกเปลี่ยนไป คุณจะได้กดปุ่มให้ตัวละครใช้ปืนหรือดาบในการต่อสู้ ระบบของเกมถูกเปลี่ยนจากการใช้คำสั่งที่คุ้นเคยกันมาช้านาน” “เดิมทีหลายคนคุ้นเคยกับการใช้คำสั่งตามสไตล์ของเกม RPG ยุคเก่า แล้วทำไมใน Final Fantasy XVI พวกเขาถึงเปลี่ยนมาเป็นแนวแอ็กชันแทน เพราะพวกเราต้องการให้คนอื่น ๆ ที่ไม่เคยเล่นเกมนี้ได้สัมผัสเกมที่ชื่อว่า Final Fantasy ในวงกว้างมากขึ้น” “แน่นอนว่าผมไม่คิดว่าพวกเราจะยังรักษาฐานแฟนเกมที่ชื่นชอบแฟรนไชส์นี้ไว้ได้ตลอด ผมเลยบอกทีมงานว่าพวกเราต้องปรับเปลี่ยนและออกแบบระบบต่อสู้ให้สนุก” โยชิดะ อธิบาย ก่อนหน้านี้โยชิดะเคยออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องของการเปลี่ยนระบบการต่อสู้ของเกมนี้ เขารู้ดีว่าแฟรนไชส์ Final Fantasy ระบบต่อสู้ต้องเป็นแบบใช้คำสั่ง แต่พอคำนึงถึงผู้เล่นรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเล่นแฟรนไชส์นี้ เขาจึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนระบบการเล่นของเกมให้ถูกใจผู้เล่นรุ่นใหม่แทน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ของ Final Fantasy VII ทาง Square Enix ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง ที่จะทำการประกาศเปิดตัว FFVII Remake Part 2 หรือในชื่อใหม่อย่างเป็นทางการว่า Final Fantasy VII Rebirth ซึ่งมาพร้อมกับตัวอย่างแรกและข้อมูลใหม่ที่น่าคาดหวังเป็นอย่างมาก กับการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของ Cloud และพวกพ้องที่จะได้สัมผัสกันในปีหน้า
Final Fantasy VII Rebirth จะดำเนินเรื่องราวต่อจาก Final Fantasy VII Remake ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่พวกพ้องของ Cloud
ได้เดินทางออกจาก Midgar เพื่อไปพบกับโลกอันกว้างใหญ่ โดยทาง Square Enix ได้สัญญาว่าผู้เล่นจะได้เดินทางในโลกกว้างอย่างที่คาดหวังเอาไว้ ในขณะที่เนื้อเรื่องของเกมนั้นจะยังคงมีเนื้อหาอันเข้มข้นที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ จนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเนื้อเรื่องไหนคือเนื้อเรื่องจริง หรือเนื้อเรื่องไหนคือเนื้อเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมากันแน่ และ “จุดจบสุดท้าย” ที่ Sephiroth ได้พูดถึงเอาไว้คืออะไรกันแน่ นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เล่นจะได้ร่วมพบกับ Cloud ในเกมภาคต่อนี้คุณ Tetsuya Nomura ผู้รับหน้าที่ Creative Director ได้กล่าวว่าเกมมากมายที่ถูกเปิดตัวออกมาในตอนนี้ ได้มีความเชื่อมโยงกันกับโลกของ Final Fantasy VII ซึ่งใน Final Fantasy VII Rebirth ยังคงได้รับการพัฒนาให้ผู้เล่นทุกคนสามารถสนุกกับเกมได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รู้จักเรื่องราวของเกมในต้นฉบับเดิมมาก่อนก็ตาม เพราะว่าพวกพ้องของ Cloud จะเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ในเกมภาคนี้ ซึ่งผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ที่สดใหม่มากกว่าเดิม และไม่อาจคาดเดาได้ว่าเรื่องราวการเดินทางครั้งนี้จะนำ Cloud ไปสู่ที่ใด อีกด้านหนึ่ง คุณ Naoki Hamaguchi ผู้รับหน้าที่เป็น Director หลักของเกม ก็ได้กล่าวว่าเขารู้สึกดีใจมากที่ได้ประกาศเปิดตัวเกมออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกันเสียที ซึ่งตอนนี้ตัวเกมได้เข้าสู้ขั้นตอนการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ข่าวเกมส์ และเขายังได้ยืนยันว่า Final Fantasy VII จะเป็นเรื่องราวของเกมไตรภาคสามตอน ทว่า Final Fantasy VII Rebirth จะเป็นมากกว่าการเป็นแค่เกมภาคเดียว ซึ่งมันเต็มไปด้วยโลกที่สุดยอดสมกับการรอคอยของผู้เล่นทั่วโลกอย่างแน่นอน Final Fantasy VII Rebirth มีกำหนดวางจำหน่ายภายในช่วงสิ้นปี 2023 – ต้นปี 2024 โดยจะวางจำหน่ายให้กับเครื่อง PlayStation 5 ก่อนเป็นเครื่องแรก