สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ กระทบต้นทุนค่าธรรมเนียมน้ำมันในการใช้บริการท่าเรือ
เศรษฐศาสตร์ โดย “เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข” ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า กทท.ปรับค่าธรรมเนียมพิเศษ (เซอร์ชาร์จ) การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของการให้บริการตู้สินค้าและการให้บริการเรือลากจูง ณ ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาพลังงานในปัจจุบัน (ดูตารางประกอบ) ทั้งนี้ กทท.จะทบทวนค่าธรรมเนียม ทุกวันที่ 1 ของเดือนมกราคม, เมษายน, กรกฎาคม และตุลาคมของทุกปี โดยใช้ผลต่างราคาน้ำมันดีเซลของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระหว่างราคาเฉลี่ยในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับราคาเฉลี่ยทั้งปีของปี 2547 และจะปรับปรุงในกรณีที่ผลการคำนวณค่าธรรมเนียมมีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 5% สำหรับผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าเรือ ในช่วง 9 เดือน ประจำปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564-มิถุนายน 2565) เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สรุปดังนี้ท่าเรือกรุงเทพ มีเรือเทียบท่า 3,381 เที่ยว เพิ่มขึ้น 11.95% สินค้าผ่านท่า 13.97 ล้านตัน ลดลง 13.77% ตู้สินค้าผ่านท่า 0.95 ล้านทีอียู ลดลง 13.34% ท่าเรือแหลมฉบัง เรือเทียบท่า 7,517 เที่ยว เพิ่มขึ้น 4.88% สินค้าผ่านท่า 30.39 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.28% ตู้สินค้าผ่านท่า 6.56 ล้านทีอียู เพิ่มขึ้น 5.81% ท่าเรือเชียงแสน เรือเทียบท่า 1,442 เที่ยว ลดลง 18.85% สินค้าผ่านท่า 60,972 ตัน ลดลง 20.02% ตู้สินค้าผ่านท่า 2,147 ตู้ เพิ่มขึ้น 100% ส่วน ท่าเรือเชียงของ ไม่มีเรือเทียบท่าและไม่มีสินค้าผ่านท่า เนื่องจากเป็นการค้าระหว่างไทยและ สปป.ลาว ซึ่งปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศทำการค้าขายที่ด่านสากลผ่านทางสะพานมิตรภาพชายแดนไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ท่าเรือระนอง เรือเทียบท่า 132 เที่ยว ข่าวเศรษฐศาสตร์ ลดลง 27.87% สินค้าผ่านท่า 60,916 ตัน ลดลง 35.68% ตู้สินค้าผ่านท่า 2,241 ตู้ ลดลง 26.38% สรุปภาพรวม 9 เดือนมีเรือเทียบท่าที่ ทกท.และ ทลฉ. รวม 10,898 เที่ยว เพิ่มขึ้น 6.98% สินค้าผ่านท่า 44.36 ล้านตัน ลดลง 3.38% และตู้สินค้าผ่านท่า 7.52 ล้านทีอียู เพิ่มขึ้น 2.94% ด้านการเงินของ กทท. ระยะ 9 เดือน มีรายได้สุทธิ 11,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.63% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า